เดือน: มกราคม 2023

พื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นที่มีความสวยงามและมีการดึงดูดผู้คนใช้งานกันอย่างมาก เพราะว่า พื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นเรซินที่ได้รับความนิยมอย่างมากมายกันในปัจจุบันนี้ ในบรรดาพวกโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์ ผลิตรถยนต์ และทั่วไปได้ทำการทำพื้นอีพ็อกซี่กันเป็นส่วนมาก

เนื่องจากด้วยคุณสมบัติที่ดี และง่ายต่อการทำความสะอาด แถมสวยงามและทนทานต่อสารเคมี ทำให้พื้นอีพ็อกซี่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่วนสีอีพ็อกซี่นั้นก็มีคุณสมบัติพิเศษอีกหลายด้านที่ผู้คนยังไม่รู้ จึงอยากจะยกตัวอย่างคุณสมบัติทั้งทางเคมีและทางกายภาพ และการติดตั้งให้ได้อ่านกันคร่าวๆ เพื่อให้ผู้คนหรือคนที่กำลังใช้งานหรือกำลังตัดสินใจในการรับทําพื้นอีพ็อกซี่อาจนำข้อมูลไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจ
หลักการที่สำคัญๆนั้นก็มี ด้วยกันที่เป็นปัจจัยที่ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมเลือกที่จะติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่
– เหตุผลข้อแรกที่เลือกใช้พื้นอีพ็อกซี่นั้นก็คือ ด้วยเพราะว่าความสวยงาม อันเป็นสิ่งที่มีผลดีมากกับผู้ทำงานและความเชื่อมั่นจากลูกค้า
– คุณสมบัติด้านความทนทานต่อสารเคมีและน้ำมันทำให้ทุกคนนิยมใช้งานพื้นอีพ็อกซี่ที่มีการทำความสะอาดแะบำรุงรักษาง่าย
– พื้นนั้นจะมีความทนทานต่อการใช้งานสูง มีหลายแบบให้เลือกใช้งานกันมากมายสามารถรับนำหนักของรถโฟล์คลิฟท์ได้มากถึง5ตัน
ดังนั้น จึงพอจะรู้ได้ว่าเหตุผลที่กลุ่มพวกโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆนั้นหันมาเลือกใช้พื้นอีพ็อกซี่เพราะอะไร คือมีความทนทานต่อกรด-ด่าง และคราบสกปกที่ติดพื้นทำความสะอาดออกยาก แล้วก็กันลื่น

ราคาพื้นอีพ็อกซี่ ต่อตารางเมตร ใช้เป็นพื้นโรงงาน ได้รับกันอย่างกว้างในระดับโลก ว่าเป็นพื้นสังเคราะห์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในการใช้งานเป็นพื้นโรงงานอุตสาหกรรม จะเห็นได้จากการวางข้อกำหนดของบริษัทที่เป็นระดับโลกว่าพื้นโรงงานจะเป็นพื้นอีพ็อกซี่ มีข้อกำหนดทั้งสี ความหนาฟิล์มสี การตีเส้นจราจรและสัญลักษณ์อย่างชัดเจน นั่นก็เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สนับสนุนอย่างหนึ่งว่า สี อีพ็อกซี่ ได้รับการยอมรับให้ใช้กับพื้นโรงงานอุตสาหกรรมทั่วโลก แต่ที่มากกว่านั้นเราจะเห็นว่าบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเรซินอีพ็อกซี่และเรซินเอมีนที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำสีพื้นอีพ็อกซี่นั้นจะมีเป็นโรงงานขนาดใหญ่และทำส่งออกไปทั่วโลกปัจจัยที่สำคัญอีกข้อหนึ่งอย่างที่ทำให้ พื้นอีพ็อกซี่ ได้รับความนิยมมากที่สุดคือคุณสมบัติทางฟิสิกส์และทางเคมีของอีพ็อกซี่เอง ที่มีความทนทานต่อการใช้งานและมีการยืดแกาะต่อคอนกรีตได้ดีเยี่ยม

เครื่องหมายการค้าต่างประเทศ

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นสิ่งที่แบรนด์ต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่บริษัทควรให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

ซึ่งในปัจจุบันนี้ การจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ถูกแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบใหญ่ ๆ และมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังต่อไปนี้:

1. National Route
เป็นการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยตรง ไปยังสำนักเครื่องหมายการค้าในประเทศที่ต้องการจะขอรับความคุ้มครอง ซึ่งเรียกกันสั้น ๆ ว่า เป็นการยื่นตรง และจะต้องมีการตั้งตัวแทนในประเทศดังกล่าว เพื่อดำเนินการยื่นคำขอจดทะเบียน

2. Regional Route
เป็นการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ไปยังกลุ่มประเทศที่รวมตัวกัน เพื่อให้ความคุ้มครองในทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกัน ได้แก่ EUIPO OAPI และ Benelux เป็นต้น

3. Madrid System
เป็นการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตามแบบฟอร์มที่กำหนด ไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทย > และ
ทางกรมฯ เอง จะนำส่งคำขอไปที่สำนักเครื่องหมายการค้า องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) > หลังจากนั้น ทาง WIPO จะยื่นคำขอไปยังสำนักเครื่องหมายการค้าของประเทศปลายทาง ที่ผู้ขอต้องการจะขอรับความคุ้มครอง ซึ่งเรียกกันโดยง่ายว่าเป็นการยื่นมาดริด